อายุเท่าไหร่ยังไม่ควรเรียนพิเศษ!

 

 

 อายุเท่าไหร่ยังไม่ควร เรียนพิเศษ! 

 

เพิ่มเพื่อน

 

ความต้องการของผู้ปกครองให้ลูก เรียนพิเศษ

ในปัจจุบันเนื่องจากพ่อแม่หลายท่านต้องการที่จะให้ลูกของตนมีโอกาสที่ดี อยากให้ลูกได้เรียนในโรงเรียนดี ๆ และสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ จึงได้มีการเตรียมความพร้อมให้ลูกตั้งแต่ลูกยังอายุน้อย ๆ ดังนั้นพ่อแม่หลายท่านจึงได้มีการส่งลูก เรียนพิเศษ ในสถาบันสอนพิเศษต่าง ๆ มากมายตั้งแต่ลูกยังเรียนอยู่ในชั้นอนุบาล (3-6 ปี) เพื่อให้ลูกสอบเข้าป .1 ในโรงเรียนที่พ่อแม่วางแผนไว้ได้  ซึ่งการให้ลูกเรียนพิเศษตั้งแต่วัยอนุบาลเป็นสิ่งที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเด็กวัยนี้ เป็นวัยที่พร้อมจะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ตลอดเวลาผ่านการเคลื่อนไหว ประสบการณ์ และการได้ลงมือทำจริง ถ้ารีบให้เด็ก เรียนพิเศษ (วิชาการ) ตั้งแต่วัยนี้จะเป็นการขัดขวางโอกาสในการพัฒนาทักษะต่าง ๆ ที่เหมาะสมตามวัย ซึ่งจะส่งผลให้เกิดผลเสียตามมา

 

ผลเสียที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อให้ลูก เรียนพิเศษ ตั้งแต่วัยอนุบาล (3-6 ปี) 

 

1. ภาวะความเครียดจากการถูกเร่งรัด (Hurry Child Syndrome)

การให้ลูกเรียนพิเศษ (วิชาการ) ตั้งแต่วัยอนุบาล ( 3-6 ปี ) อาจทำให้เด็กเกิดภาวะความเครียดจากการที่เด็กถูกเร่งรัดให้เรียนเยอะมากเกินไป และเรียนในสิ่งที่ไม่เหมาะกับความพร้อมทางพัฒนาการของเขา สิ่งนี้เองที่อาจทำให้ลูกมีการแสดงออกทางพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากเดิม เช่น ในตอนแรกลูก ๆ อาจจะยอมเรียนพิเศษหลาย ๆ วิชาตามที่พ่อแม่ต้องการเพื่ออยากได้รับคำชมจากพ่อแม่ และอยากที่จะทำให้พ่อแม่ภูมิใจในตัวเอง แต่เมื่อเวลาผ่านไป เมื่อเขาเริ่มโตขึ้น อาจทำให้ลูกเกิดอาการเฉยชากับสิ่งที่ทำ จนในบางครั้งอาจเกิดเป็นความไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องเรียนอะไรมากมาย จนเกิดเป็นการต่อต้านไม่ยอมทำตามคำพูดพ่อแม่ขึ้นมาได้ หรือเกิดความรู้สึกว่าไม่อยากที่จะเรียนหรือทำในสิ่งที่พ่อแม่ได้จัดเตรียมไว้ให้อีกต่อไป แต่ก็เกิดความรู้สึกผิดที่ไม่สามารถทำให้พ่อแม่ได้อย่างที่พ่อแม่คาดหวังไว้ จนเกิดเป็นอาการซึมเศร้าขึ้นมา และในบางรายอาจร้ายแรงถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย

 

2. อาจทำให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับพ่อ-แม่น้อยลง

เด็กหลายคนต้องเรียนพิเศษตั้งแต่ก่อนเข้าเรียน แล้วพอหลังเลิกเรียนก็ยังคงต้องเรียนพิเศษต่ออีก เมื่อเด็กเลิกเรียน กลับบ้านก็เกิดความเหนื่อยล้า และหลับไป ทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้พูดคุย และใช้เวลาอยู่กับลูกมากเท่าไหร่นัก จึงอาจทำให้เด็กไม่รู้สึกผูกพันธ์ และทำให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับพ่อแม่น้อยลง ซึ่งผิดต่อหลักพัฒนาการเป็นอย่างยิ่ง เพราะเด็กในวัยนี้เป็นวัยที่ต้องการความรัก ความอบอุ่น และการดูแลเอาใจใส่จากพ่อแม่เป็นอย่างมาก ถ้าพ่อแม่ไม่ได้ให้ในสิ่งที่ลูกต้องการในช่วงวัยนี้ แล้วจะหวังเสริมสร้าง และให้ลูกในช่วงวัยอื่นก็เกรงว่าจะไม่ทันการเสียแล้ว

 

3. จินตนาการและศักยภาพทางความคิดจะถูกขัดขวาง

เด็กในช่วงวัย 1-7 ปี ควรปล่อยให้เล่นตามธรรมชาติ เพราะการเล่นจะช่วยเสริมสร้างจินตนาการของเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี  แต่หากพ่อแม่ท่านไหนให้ลูกเรียนพิเศษมากจนเกินไป จนไม่มีเวลาให้เด็กได้เล่นหรือได้เรียนรู้ตามวัย ในช่วงแรก ๆ เด็กอาจจะมีผลการเรียนที่ดี แต่เมื่อเวลาผ่านไปอาจทำให้เขามีผลการเรียนที่ลดลง และเป็นอย่างนั้นไปจนโต เพราะเด็กจะขาดในเรื่องของจินตนาการ และความอยากรู้อยากเห็น อันเป็นพลังที่จะช่วยผลักดันให้เด็กทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ความมุ่งมั่น และตั้งใจ

 

4. เป็นการขัดขวางโอกาสในการพัฒนาสมองที่เหมาะสมตามวัย

เด็กในวัย 3-6 ปี สิ่งที่ควรส่งเสริมและพัฒนาให้เหมาะสมตามวัยก็คือ การพัฒนาการเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสต่าง ๆ จินตนาการ เรื่องของอารมณ์  ฝึกการเข้าสังคม และการอยู่ร่วมกับบุคคลอื่น เพื่อให้เด็กโตไปสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างเหมาะสม มีการจัดการอารมณ์ที่ดี และมีร่างกายที่พร้อมสำหรับการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ซึ่งถ้าหากพ่อแม่ให้ลูกเรียนแต่วิชาการ ไม่ส่งเสริมศักยภาพสมองตามวัยของเด็ก อาจทำให้เด็กโตไปแล้วเรียนเก่งแต่ด้านวิชาการ แต่ทักษะการเข้าสังคมและการอยู่ร่วมกับผู้อื่นไม่มี หรือเรียนดีแต่ร่างกายไม่แข็งแรง ไม่สามารถเล่นกีฬาหรือทำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว และด้วยสิ่งเหล่านี้นี่เองอาจส่งผลเด็กกลายเป็นคนไม่มีความมั่นใจในตัวเองได้ในท้ายที่สุด

      

แล้วอายุเท่าไหร่ จึงสามารถเรียนพิเศษได้กันล่ะ ? 

หมอมินบานเย็น หรือ คุณหมอ เบญจพร ตันตสูติ  จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น เจ้าของเพจเข็นเด็กขึ้นภูเขากล่าวว่า “ ถ้าถามว่าควรให้เรียนแบบวิชาการเมื่ออายุเท่าไหร่ โดยส่วนใหญ่นั้นการเรียนรู้ที่เฉพาะเจาะจงจะเริ่มพัฒนาเมื่อเด็กอายุ 6 ปีและจะพัฒนาเต็มที่ที่อายุ 20 ปี ดังนั้น การเรียนแบบสมัยก่อนที่พ่อแม่ให้ลูกเริ่มเรียน ป.1 หรือตอนที่อายุ 6 ขวบ หมอก็รู้สึกว่า เหมาะสมแล้ว ”

 

ที่ BrainFit เรามีหลักสูตรพัฒนาสมองแบบรอบด้าน BrainFit Whole Brain Training  ที่เหมาะสำหรับพัฒนาการของ เด็กอายุตั้งแต่ 3-18 ปี เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางสมองของเด็ก ๆ อย่างสมวัย เราจะเตรียมให้เด็กพร้อมมากขึ้นในการเรียน ซึมซับข้อมูล โดยเรียนผ่านกิจกรรมจากการวิจัยที่สนุกสนาน เพื่อให้เด็กได้ลงมือทำจริง และได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์โดยตรง เห็นผลเร็ว และยั่งยืนนาน

 

 

พัฒนาศักยภาพการเรียนรู้แบบ Whole Brain Training

สำหรับเด็ก 3-18 ปี

 

 

BrainFit รับสมัครน้องๆ อายุตั้งแต่ 3-18 ปี

รับคำปรึกษาจากเรา และทดลองเรียนฟรี ได้แล้ววันนี้

ที่ 02-656-9938 / 02-656-9915 / 091-774-3769

เพิ่มเพื่อน

LINE: @brainfit_th

 

Site: https://www.parentsone.com/5-cautions-before-get-kids-to-tutor  / http://www.islammore.com/view/1689  /  https://www.facebook.com/kendekthai

Contact Us

If you would like to have your child attend our course, or you would simply like more information, please contact us today.

BrainFit Studio Thailand 2nd floor, Ploenchit Center,
Sukhumvit Soi 2, Bangkok 10110BTS Ploenchit Station Exit 4