พัฒนาการเด็ก ด้านการเคลื่อนไหว

 

พัฒนาการเด็ก ด้านการเคลื่อนไหว

 

เพิ่มเพื่อน

 

คุณพ่อคุณแม่เคยสังเกตหรือเคยตั้งข้อสงสัยไหมคะ ว่าลูกของเรามี พัฒนาการเด็ก ด้านการเคลื่อนไหว เช่น การนั่ง ยืน เดิน วิ่ง ฯลฯ เหมาะสมตามวัยหรือเปล่านะ แล้วจะมีวิธีไหนที่เราจะสามารถช่วยให้ลูกพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวนี้ให้เหมาะสมตามช่วงวัยได้หรือเปล่า คำตอบคือได้แน่นอนค่ะ

วันนี้ BrainFit มีข้อมูลเกี่ยวกับ พัฒนาการเด็ก ด้านการเคลื่อนไหวมาฝากกันค่ะ มาดูกันว่าในแต่ละช่วงวัยที่ลูกเติบโตขึ้น ทักษะด้านการเคลื่อนไหวแต่ละด้าน ควรจะได้รับการพัฒนาไปอย่างไรบ้าง

 

พัฒนาการเด็กช่วงอายุ 0-3 เดือน


สามารถยกคอ เงยหน้าขึ้นเหนือพื้นได้เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ
คอสามารถตั้งตรงได้เมื่ออายุ 3 เดือน
ชอบนอนคว่ำและนอนหงายขยับแขนขาไปพร้อม ๆ กัน ทำให้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ จะเริ่มพัฒนาและแข็งแรงมากขึ้น รวมถึงพัฒนาการทำงานประสานกันของแขน-ขาอีกด้วย
ช่วงวัยนี้พยายามอย่าให้ลูกนั่ง Car seat หรือรถเข็นเป็นระยะเวลานานเกินไป เพราะอาจทำให้ลูกมีภาวะศีรษะแบนได้ พยายามสลับให้ลูกนอนตะแคงข้างสลับไปมา หรือจับนอนคว่ำบ้าง เวลาอุ้มให้นมก็ให้ศีรษะลูกได้พิงสลับข้างซ้าย-ขวานะคะ


พัฒนาการเด็กช่วงอายุ 3-6 เดือน


มีความคล่องตัวในการเคลื่อนไหวร่างกายมากขึ้น
สามารถพลิกตัวจากนอนคว่ำมานอนหงายได้คล่องขึ้น
สามารถใช้แขนดันพื้น เพื่อยืดอกให้อยู่เหนือพื้นขึ้นมาได้
นอนชันแขนด้วยศอกได้
ยืดแขนหยิบจับของเล่นได้ดี
สามารถยืดแขนจนถึงเข่า และสามารถจับเท้าเพื่อนำมาเข้าปากได้
สามารถประคองคอให้ตั้งตรงได้ดีมากขึ้น
สามารถนั่งได้โดยมีการช่วยประคอง ทั้งนี้หากลูกอายุ 6 เดือนลูกจะสามารถนั่งได้ด้วยตัวเองประมาณ 1 นาที


พัฒนาการเด็กช่วงอายุ 6-9 เดือน


ในท่านอนคว่ำ
ลูกสามารถทำท่าว่ายน้ำกลางอากาศได้ ยกแขนยกขาลอยเหนือพื้น
หันศรีษะไปมาได้รอบทิศทาง
คลานไปข้างหน้าในท่านอนคว่ำ ใช้แขนและขาดันพื้นเพื่อขยับไปข้างหน้า
สามารถใช้มือและเข่ายกตัวขึ้นมาในท่าเตรียมคลานได้
ลูกสามารถนั่งได้ด้วยตัวเองอย่างอิสระ ไม่ต้องมีคนช่วยพยุงแล้ว


พัฒนาการเด็กช่วงอายุ 10-12 เดือน


พัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวดีขึ้นมาก ๆ สามารถนั่ง ลุก นอน คลาน อยู่ในท่าทางต่าง ๆ ได้อย่างอิสระมากขึ้น
สามารถคลานไปข้างหน้าด้วยมือและเข่าได้อย่างคล่องแคล่ว
ลูกทรงตัวในท่ายืนขึ้นได้ โดยมีคุณพ่อคุณแม่ช่วยจับแขนลูกยกขึ้น
สามารถเดินได้โดยมีคนช่วยพยุงแขน
สามารถเปลี่ยนจากท่านั่งเป็นท่ายืนได้ด้วยตัวเอง
สามารถนั่งย่อตัวลงเพื่อหยับสิ่งของได้ โดยไม่สูญเสียการทรงตัว


พัฒนาการเด็กช่วงอายุ 1-2 ขวบ
สามารถเดินได้อย่างอิสระในช่วงอายุประมาณ 18 เดือน
การทรงตัวดีขึ้น สามารถเดินเล่นสำรวจได้เองอย่างอิสระ
สามารถนั่งย่อตัวหรือลุกขึ้นได้อย่างมั่นคง
สามาถคลานขึ้นลงบันได หรือเดินขึ้นลงบันได้โดยใช้มือจับราวได้ด้วยตัวเอง
สามารถโยนลูกบอลโดยยกมือขึ้นเหนือศีรษะได้
เตะลูกบอลได้ทั้งขาซ้ายและขาขวา
ชอบปีนขึ้นเก้าอี้หรือเฟอร์นิเจอร์
สามารถวิ่งได้อย่างอิสระ และเริ่มพัฒนาทักษะการกระโดดอีกด้วย


แล้วถ้าลูกกำลังอยู่ในวัยหัดเดิน จะมีวิธีช่วยให้ลูกพัฒนาทักษะการเดินได้ไวขึ้นหรือไม่? 
ได้แน่นอนค่ะ ถ้าหากว่าลูกเริ่มลุกและพยายามจะเดินด้วยตัวเองได้แล้ว คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยลูกได้อย่างแน่นอน ยกตัวอย่างเช่น หากลูกยืนขึ้นได้แต่ไม่รู้วิธีการย่อตัวลงนั่ง คุณพ่อคุณแม่สามารถทำท่าทางให้ลูกดูเป็นแบบอย่างได้เลยค่ะ ทำเช่นนี้ลูกจะเรียนรู้วิธีารจัดการร่างกายส่วนต่าง ๆ ด้วยตัวเอง แทนที่เราจะเข้าไปอุ้มและจับลูกนั่งเลย

หรือถ้าลูกอยู่ในท่านั่งแล้วอยากลุกขึ้น แต่ลุกไม่ได้จึงร้องไห้เพื่อขอความช่วยเหลือ คุณพ่อคุณแม่ลองเข้าไปหาลูก พูดปลอบให้ลูกนิ่งสงบ จากนั้นทำท่าให้ลูกดูด้วยการใช้แขนดันพื้น งอหัวเข่าขึ้น แล้วลุกขึ้นยืน ในครั้งแรก ๆ อาจจะช่วยพยุงตัวลูกขึ้นบ้าง แต่เชื่อได้เลยว่าในครั้งต่อ ๆ ไปลูกจะจดจำจนสามารถทำได้ด้วยตัวเองแน่นอนค่ะ


แล้วถ้าอยากใช้รถเข็นช่วยเดิน จะดีหรือเปล่า? 
จาก  American Academy of Pediatrics (AAP) แนะนำเลยว่าไม่ควรใช้รถเข็นช่วยเดิน เพราะจะยิ่งทำให้ลูกตกอยู่ในอันตรายได้ง่าย เพราะลูกสามารถไปหยิบจับหรือพุ่งตรงไปในที่อันตรายได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังอาจส่งผลเสียต่อรูปร่างและสรีระของลูกอีกด้วย ดังนั้นปล่อยให้ลูกฝึกหัดการเดินด้วยตัวเอง ตามพัฒนาการของลูกจะดีกว่านะคะ


ลูกควรจะสวมรองเท้าตอนอายุเท่าไหร่?
จริง ๆ แล้วลูกควรจะสวมรองเท้าเมื่อออกไปเดินข้างนอก ที่ที่มีพื้นผิวขรุขระ เปียก หรือเย็นเกินไป แต่หากลูกอยู่ที่บ้าน ควรให้ลูกเดินเท้าเปล่าจะดีกว่านะคะ เพราะลูกจะได้ฝึกทั้งการทรงตัวและการทำงานประสานกันของร่างกายอีกด้วย


ถ้าลูกไม่ยอมเดิน จะทำอย่างไรดี?
เด็ก ๆ แต่ละคนจะมีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวเร็ว-ช้าต่างกันไป แต่ทั้งนี้ให้คุณพ่อคุณแม่ลองสังเกตพัฒนาการของลูกให้ดีนะคะ ถ้าหากลูกไม่สามารถยืนโดยมีคนช่วยพยุงในวัย 12 เดือน ไม่สามารถเดินด้วยตัวเองในวัย 18 เดือน หรือไม่สามารถเดินอย่างมั่นคงในวัย 2 ขวบ ควรพาลูกไปปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีค่ะ


จบแล้วค่ะกับพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวของลูกน้อย คุณพ่อคุณแม่ลองนำข้อมูลข้างต้นไปดูและสังเกตพัฒนาการลูกน้อยได้เลยค่ะ ดูว่าลูกของเรามีทักษะและพัฒนาการในการเคลื่อนไหวร่างกายส่วนต่าง ๆ เหมาะสมตามวัยหรือไม่ หากมีข้อกังวลใจหรือข้อสังเกตที่เห็นว่าลูกอาจจะมีพัฒนาการช้าเกินไป แนะให้ไปปรึกษาแพทย์เพื่อความมั่นใจของคุณพ่อคุณแม่ เพื่อให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่สมวัย และเติบโตขึ้นเป็นเด็กที่มีร่างกายแข็งแรง พร้อมที่จะสำรวจและเรียนรู้โลกกว้างอย่างเต็มที่นะคะ

 

ที่ BrainFit เรามี คอร์สพัฒนาทักษะสมองพื้นฐานที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ทั้ง 5 ด้าน ไม่ว่าจะเป็นทักษะด้านการฟัง การมอง สมาธิ อารมณ์และทักษะการเข้าสังคม รวมไปถึงด้านการเคลื่อนไหว ที่จะช่วยให้เด็ก ๆ มีทักษะสำคัญทั้ง 5 ด้านที่แข็งแรง เรียนรู้สิ่งใหม่ได้รวดเร็วมากขึ้น ทำให้ลูกรักของเรามีทักษะ ความสามารถหลากหลาย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต

 

 

เพิ่มเพื่อน

-----------------------------------------

BrainFit รับสมัครน้องๆ อายุตั้งแต่ 7-18  ปี

รับคำปรึกษาจากเรา ได้แล้ววันนี้ ฟรี!!

ที่ 02-656-9938 / 02-656-9915 / 091-774-3769

LINE: @brainfit_th

 

 

แหล่งอ้างอิง : https://www.babycenter.com/0_baby-milestone-walking_6507.bc

 

Contact Us

If you would like to have your child attend our course, or you would simply like more information, please contact us today.

BrainFit Studio Thailand 2nd floor, Ploenchit Center,
Sukhumvit Soi 2, Bangkok 10110BTS Ploenchit Station Exit 4