ปิดเทอม อย่าปล่อยให้ลูกหยุด พัฒนาการ

เล่นเกมได้แต่พอดี ไม่งั้นอาจจะทำให้คุณเสียใจ

คุณพ่อคุณแม่หลายๆท่านคงกำลังมีลูกที่อยู่ในวัยที่ชอบเล่นเกมคอมพิวเตอร์กันจนถึงขั้นติดเกม เล่นกันตั้งแต่ตื่นยันหลับกันไปเลยก็มี โดยเฉพาะในช่วงเวลาปิดเทอมแบบนี้ เด็กๆหลายคนคงจะกำลังสนุกเพลิดเพลินกับการที่ได้พักสมองอย่างเต็มที่ ปล่อยวันเวลาช่วงนี้ผ่านไปโดยการนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เล่นเกมโปรดจนดึกดื่น บางคนอาจจะถึงขั้นทานอาหารสามมื้อหน้าคอมพิวเตอร์กันไปเลย ถ้าช่วงปิดเทอมแบบนี้ คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้มีแพลนพาน้องๆไปเที่ยวพักผ่อนที่ไหน ช่วงเวลาที่น้องๆอยู่บ้าน คุณพ่อคุณแม่อาจจะได้เห็นภาพน้องๆนั่งเล่นเกมทั้งวันจนชินตา แต่คุณพ่อคุณแม่ทราบหรือไม่คะว่า การที่เด็กๆนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อเล่นเกมเป็นเวลานานๆติดต่อกันหลายๆชั่วโมงหลายวันนั้น มีผลเสียมากมายแค่ไหนต่อทั้งสุขภาพร่างกาย และพัฒนาการของสมองของน้องๆ ถึงขั้นประสิทธิภาพสมองในการเรียนรู้ถดถอย จะเป็นการดีมากนะคะ ถ้าน้องๆได้ใช้เวลาในช่วงปิดเทอมพัฒนาศักยภาพสมองให้พร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียนต่อไป

ปิดเทอมแล้วพักสมองไม่ได้เหรอ?

เมื่อพูดถึงเรื่องการฝึกฝนสมองของเด็กๆ ทั้งตัวเด็กเองและคุณพ่อคุณแม่อาจจะรู้สึกเหนื่อยและเบื่อหน่ายว่า ปิดเทอมแล้วทำไมยังจำเป็นที่จะต้องให้สมองของลูกๆได้ใช้งานอีก แต่ทราบหรือไม่คะว่ามีการวิจัยมาแล้วว่าช่วงปิดเทอม สมองของเด็กๆจะมีการถดถอยทางด้านการเรียนรู้โดยเฉพาะในวิชาเลข, ภาษาอังกฤษ, และทักษะการอ่าน และทำให้เมื่อเปิดภาคเรียนมา เด็กๆจะต้องใช้สมองหนักกว่าเดิมมากเพื่อที่จะให้ความสามารถในการเรียนรู้กลับมาอยู่ในระดับเดิม บางคนถึงขั้นเรียนรู้ได้ช้ากว่าเดิมและตกวิชาเลยก็มีค่ะ เพราะฉะนั้นจำเป็นมากๆนะคะที่น้องๆต้องได้ลับสมองบ้างช่วงปิดเทอม เพื่อที่เวลาเปิดเทอมมาจะได้พร้อมเต็มที่สำหรับการเรียนรู้และซึมซับข้อมูลใหม่ๆค่ะ ซึ่งศัตรูตัวร้ายกาจเลยที่ทำให้สุขภาพของน้องๆแย่ลงและทำให้สมองของน้องๆขาดการเรียนรู้และถดถอยคือเจ้าเกมคอมพิวเตอร์นี่แหละค่ะ การที่เด็กๆเล่นเกมบ้างในช่วงปิดเทอมนั้นถือเป็นการผ่อนคลายที่ไม่ได้เลวร้าย แต่ว่าเด็กๆส่วนใหญ่เล่นแล้วก็จะติด โดยเฉพาะถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้พาน้องๆออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน เช่นการไปเล่นกีฬา หรืออื่นๆ เด็กๆที่ชอบเล่นเกมส่วนใหญ่ตื่นมาทานข้าวก็เล่นแล้ว ทานข้าวมื้อที่เหลือหน้าคอมพิวเตอร์ เล่นจนดึกดื่น ส่วนคุณพ่อคุณแม่อาจจะเห็นว่าลูกๆใช้สมองมาเต็มที่แล้วช่วงเปิดเทอม เลยอนุญาตให้เต็มที่ได้ แต่ในความเป็นจริงกลับกลายเป็นว่าสมองของน้องๆนั้นถดถอยลง เพราะไม่ได้ฝึกฝนสมองส่วนเรียนรู้ หรือว่า Cognitive Skills ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูล, เหตุผล, การจดจำ, และการเชื่อมโยงต่างๆ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการเรียนรู้ของเด็กๆ ไหนจะการนอนดึกที่มาพร้อมๆกับการติดเกมซึ่งแทนที่สมองและสายตาจะได้พักผ่อนกลับกลายเป็นต้องทำงานหนัก รวมไปถึงการนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ ทำให้สรีระร่างกายของเด็กๆเสียด้วย คุณพ่อคุณแม่อาจจะจำเป็นที่ต้องจำกัดเวลาเล่นเกมของเด็กๆเพื่อที่จะไม่ให้เกิดผลเสียกับตัวเขาเองค่ะ

 

ฝึกสมองได้ ไม่ต้องนั่งเรียน

เมื่อคุณพ่อคุณแม่ทราบถึงโทษที่สามารถเกิดจากการติดเกมแล้ว คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายคงอยากหากิจกรรมให้ลูกๆได้ทำช่วงปิดเทอมที่เป็นการกระตุ้นสมองแต่ไม่น่าเบื่อใช่ไหมคะ ความจริงแล้วมีหลายกิจกรรมที่เด็กๆทำได้ เช่น ออกไปเล่นกีฬา วาดรูป เรียนดนตรี ซึ่งมีผลดีต่อทั้งสมองและอารมณ์ของเด็ก หรือถ้าคุณพ่อคุณแม่อยากให้เด็กๆได้ฝึกสมองแบบเข้มข้นขึ้นมา เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียนถัดไปโดยที่ไม่น่าเบื่อไม่น่าปวดหัวและดีต่อสุขภาพกายของน้องๆไปด้วยในเวลาเดียวกัน และที่สำคัญใช้เวลาไม่นานและเห็นผลลัพธ์รวดเร็ว ขอแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่หาคอร์สที่มุ่งเน้นโดยตรงในการฝึกสมองทางด้านการเรียนรู้ซึ่งทำให้สมองของน้องๆตื่นตัวอยู่เสมอ แม้ในเวลาที่ไม่ได้ไปโรงเรียน คอร์สแบบนี้จะไม่เหมือนการไปเรียนกวดวิชาทั่วไปที่น่าเบื่อและเน้นให้นำไปสอบหรือทำแบบฝึกหัดได้เฉยๆ แต่เป็นการทำให้ทักษะการใช้สมองรอบด้านของน้องๆมีประสิทธิภาพมากขึ้นและพร้อมสำหรับการเรียนรู้ในห้องเรียนได้ดียิ่งขึ้น

ใช้สมองแบบสนุก ไม่น่าเบื่อ และเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว

คอร์สฝึกสมองช่วงปิดเทอมแบบนี้ ทางสถาบันมุ่งเน้นทางด้านการพัฒนาศักยภาพเด็ก มีคอร์สสั้นๆช่วงปิดเทอมสำหรับน้องๆ และที่นี่ก็คือ BrainFit Thailand ค่ะ ซึ่งทาง Brainfit Thailand นั้นมีคอร์สช่วงปิดเทอมอยู่ 2 คอร์สด้วยกันที่พิสูจน์มาแล้วว่าเห็นผลทางด้านพัฒนาการของเด็กได้จริงและรวดเร็ว โดยที่ไม่ได้ใช้วิธีการเรียนเหมือนโรงเรียนกวดวิชาทั่วไป แต่ที่นี่มีวิธีการฝึกฝนที่แอคทีฟสุดๆสำหรับทั้งร่างกายและสมองของน้องๆ ด้วยสื่อ interactive มากมาย, โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาเฉพาะสำหรับหลักสูตรของที่นี่, รวมไปถึงการเรียนรู้แบบ gym-based ซึ่งพัฒนาสมอง ร่างกาย และความสัมพันธ์ทางด้านประสาทสัมผัสกับการเคลื่อนไหวของเด็กๆ

คอร์สแรกเป็นหลักสูตร “Super Intensive English” ที่เน้นการฝึกภาษาอังกฤษแบบเข้มข้น จากการวิจัยเด็กๆจะก้าวหน้า 1-2 ปีหลังจากการฝึกแค่ 2-3 เดือนเท่านั้นค่ะ เพราะหลักสูตรของที่นี่ถูกพัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลก ซึ่งจะช่วยให้เด็กๆมีความจำ, สมาธิ, ความรวดเร็วในการประมวลข้อมูล, รวมไปถึงทักษะการเรียงลำดับ, คิดวิเคราะห์แยกแยะ, และความมั่นใจในการอ่านที่ดีขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ โดยจะมีสื่อช่วยในการฝึกฝนเป็นโปรแกรมฟังเสียงการอ่านภาษาอังกฤษของน้องๆที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด มีการให้ feedback แบบ realtime ทำให้น้องๆมีความมั่นใจมากขึ้นในการอ่าน และสามารถอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องด้วยค่ะ

กับคอร์สที่สอง ซึ่งเป็นหลักสูตร “Total Brain Fitness” ซึ่งมุ่งเน้นในการเสริมสร้างรากฐานที่สำคัญสำหรับ Cognitive skills หรือทักษะการเรียนรู้ของน้องๆ และการเสริมสร้างทักษะการควบคุมร่างกาย, ทักษะการประมวลผลสิ่งที่เห็น, และทักษะการประมวลผลจากสิ่งที่ได้ยิน ซึ่งรวมไปถึงการพัฒนาภาษาอังกฤษและการอ่านภาษาอังกฤษ โดยใช้สื่อการพัฒนาที่สนุก เข้มข้น และมีบริหารร่างกายแบบปรับใช้ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เด็กๆจะรู้สึกสนุกไปพร้อมๆกับการเพิ่มทักษะในการเรียนรู้และพัฒนาความสามารถทางด้านกีฬา

 

หลักสูตรทั้งสองแบบใช้เวลาแค่ 8-10 อาทิตย์ต่อหลักสูตรเท่านั้น แต่ให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าและยาวนานแก่น้องๆมาก คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกคอร์สที่เหมาะสมกับน้องๆที่สุด และหายห่วงได้เลย ว่าน้องๆจะใช้เวลาปิดเทอมไปอย่างเปล่าประโยชน์ เพราะการเรียนรู้ที่สนุกสนานแบบนี้นอกจากจะได้ประโยชน์แล้ว ยังไม่น่าเบื่อและน่าปวดหัวอีกด้วย

เด็กๆจะได้เตรียมพร้อมสำหรับภาคเรียนต่อไปอย่างได้เปรียบอีกด้วย

 

 

โทร: 02-656-9938 เพื่อสอบถามรายละเอียดคอร์สเรียนและส่วนลดพิเศษ

 

 

photo credits

http://news.techgenie.com/files/playing-video-games.jpg

http://corvision.org/wp-content/uploads/2014/07/InternetColumn-pic_6-2012.jpg

http://brainfitstudiothailand.com/

Contact Us

หากคุณสนใจคอร์สหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อเราได้เลย

BrainFit Studio Thailand ชั้น 2, อาคารเพลินจิตเซ็นเตอร์,
สุขุมวิทซอย 2, กทม. 10110BTS สถานีเพลินจิต ทางออก 4