แก้ปัญหาเด็กสมาธิสั้นอย่างได้ผล

 

เด็กสมาธิสั้น แก้ได้!

แก้ปัญหา เด็กสมาธิสั้น อย่างได้ผล

สมาธิสั้น คืออะไร?

 

 

เพิ่มเพื่อน

 

 

ก่อนอื่นเลย เรามาทำความเข้าใจกับกลุ่มอาการที่เรียกว่า เด็กสมาธิสั้น ว่าคืออะไรก่อนดีกว่า สมาธิ คือ ความสามารถในการจดจ่อหรือสนใจกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ โดยไม่วอกแวกกับสิ่งรบกวนรอบข้าง ซึ่งจะตรงกันข้ามกับ สมาธิสั้น

สมาธิสั้น คือ อาการที่เกิดจากระบบการทำงานของประสาท สมองไม่สามารถสั่งการ หรือควบคุมตัวเองได้อย่างเป็นปกติ ซึ่งส่งผลต่อ อารมณ์ พฤติกรรม การเข้าสังคม และทำให้มีพัฒนาการที่ไม่เหมาะสมกับวัย โดยมากแล้วจะเกิดขึ้นกับเด็กอายุประมาณ 6-12 ปี ทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ เช่น ทำให้เด็กอยู่นิ่ง ๆ ไม่ได้ ซน ไม่เชื่อฟัง วอกแวกง่าย ทำงานไม่เป็นระเบียบ ขี้ลืม เรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง ตามเพื่อนไม่ทันบ้าง ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ มักหันเหความสนใจไปในเรื่องที่เขาคิดว่าสนุกกว่า  นี่อาจจะอีกปัจจัยหนึ่งที่เรา เรียกกลุ่มอาการนี้ว่า สมาธิสั้น หรือ ADHD

 

 

สาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคสมาธิสั้น

ปัญหาต่าง ๆ จากสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราที่บีบบังคับให้เราทำอะไรก็ต้องรีบไปเสียทุกอย่าง ตอนเช้าต้องรีบตื่น อาบน้ำไปทำงาน ไปโรงเรียน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหารถติด บางคนยังไม่มีเวลาแม้จะทานอาหารเช้าเลย พอพักเที่ยงก็ต้องรีบทานข้าวให้ทัน ด้วยความหิว หรือมีธุระต่อ ก็ต้องเร่งรีบกันอีก พอตกเย็นกลับบ้านยังต้องเจอปัญหารถติด การที่เราเจอแต่สิ่งที่เร่งรีบจากกิจวัตรประจำวัน อาจเป็นสาเหตุทำให้เราไม่ได้สนใจหรือจดจ่อกับทุกอย่างที่ผ่านเข้ามา

สำหรับเด็กวัยที่กำลังเจริญเติบโตนั้น สมองและร่างกายยังไม่พัฒนาเต็มที่ การที่ต้องมาเผชิญกับความรีบร้อนในแต่ละวันนั้นอาจส่งผลให้การเลี้ยงดูก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง เช่น การปล่อยให้เด็กดูทีวีนาน ๆ เล่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต เกมออนไลน์ตลอดเวลา แทนที่จะได้ออกไปเล่นกับเพื่อน ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ซึ่งจะส่งผลดีต่อพัฒนาการของสมองได้มากกว่า

ในขณะเดียวกันเด็กบางคนไม่ได้เกิดจากสาเหตุดังกล่าว แต่ก็ยังแสดงอาการเหมือนว่าเป็นสมาธิสั้นนั้น อาจเป็นผลมาจากระบบการทำงานของสมองที่ผิดปกติ หรือมีทักษะอ่อนด้านใดด้านหนึ่งซึ่งส่งผลต่อพฤติกรรม อารมณ์ ทักษะการเข้าสังคม เด็กเหล่านี้เราเรียกว่า สมาธิสั้นแท้ (ADHD)

 

เพิ่มเพื่อน

 

แนวทางการรักษา

ในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยทำให้เราค้นพบหลากหลายวิธีการที่จะช่วยให้เด็กสมาธิสั้น มีอาการที่ดีขึ้นได้ ได้แก่

เคมีบำบัด การใช้ยาเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง โดยยาจะสามารถช่วยเพิ่มหรือลดระดับการหลั่งของสารเคมีบางอย่างในสมอง เช่น

  • ยากระตุ้นประสาท เช่น Adderall (dextroamphetamine) ,Vyvanse (lisdexamfetamine), Concerta (methylphenidate), Ritalin (methylphenidate), Quillivant XR (methylphenidate)

    • ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นคือ ปวดหัว เวียนหัว ปวดท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลง รู้สึกไม่สบายตัว คลื่นไส้ หงุดหงิดมากขึ้น นอนไม่หลับ

  • ยากดประสาท เช่น Strattera (atomoxetine)  จะแตกต่างจากยาประเภทแรก ตรงที่ไม่ได้ออกฤทธิ์ในทันทีหลังรับประทาน ต้องรอ 2-4 สัปดาห์หลังจากนั้น

    • ผลข้างเคียงที่อาจพบคือ เบื่ออาหาร ปวดหัว ปวดท้องคลื่นไส้ อาเจียน เพลีย หงุดหงิดง่าย

  • ยากลุ่มอื่นที่มีผลต่ออารมณ์ สมาธิ การควบคุมตนเอง ที่นำมาใช้รักษาอาการสมาธิสั้นได้แก่ Intuniv (guanfacine), Kapvay (clonidine), Nuvigil (armodafinil), Effexor (venlafaxine), Wellbutrin (bupropion)

* ผลข้างเคียงนี้ อาจเกิดขึ้นกับผู้ป่วยในบางรายเท่านั้น ทั้งนี้ทั้งนั้น การใช้ยาเหล่านี้ต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์ก่อน เพื่อดูความเหมาะสมของอาการแต่ละคนไป อย่างไรก็ตามการใช้ยารักษาเป็นเวลานาน ๆ อาจจะมีผลข้างเคียงต่อระบบประสาทตามมา เป็นผลเสี่ยงต่อสุขภาพก็เป็นได้ ดังนั้นผู้ปกครองจึงควรศึกษาและทำความเข้าใจกับสิ่งเหล่านี้ให้ดีก่อน

 

ฝึกสมอง พัฒนาสมาธิใน เด็กสมาธิสั้น

 

กิจกรรมบำบัด

เป็นอีกหนทางหนึ่งที่สามารถกระตุ้นอาการสมาธิสั้นให้ดีขึ้นได้เป็นอย่างดีไม่แพ้กัน แถมยังได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนกว่า การกระตุ้นสมองโดยการทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลจริงนั้น ต้องมีองค์ประกอบเหล่านี้ คือ ความสม่ำเสมอ การปรับระดับความยากง่ายให้เหมาะสมกับเด็กแต่ละคน ปริมาณ ความถี่ ระยะเวลาในการทำกิจกรรม การกระตุ้นด้วยคำชมหรือรางวัล และกิจกรรมเหล่านั้นต้องช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับสมองไปพร้อม ๆ กับความสมดุลของร่างกายเราได้อีกด้วย

เสริมทักษะของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ช่วยเพิ่มความมั่นคงของแกนกลางลำตัว ความสามารถในการทรงตัว การรับรู้และความมั่นคงของร่างกาย การประสานสัมพันธ์ระหว่างอวัยวะต่าง ๆ การเคลื่อนไหวของอวัยวะ การคาดคะเนระยะ และการวางแผนเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

เสริมทักษะของกล้ามเนื้อมัดเล็ก ช่วยในเรื่องการพัฒนาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ข้อมือ พัฒนาการเขียนและลายมือ

เสริมทักษะการมอง พัฒนาการมองเห็น รายละเอียดของภาพรวม และทำให้สามารถมองเห็นความแตกต่างของสิ่งที่เหมือน หรือคล้ายกันได้ (Visual Perception), การเปลี่ยนจุดโฟกัสทางการมองและรับรู้ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว (Visual Tracking) ทักษะนี้จำเป็นอย่างมากในการอ่านหนังสือ การจดเลคเชอร์ในห้องเรียน หรือการคัดลอกงาน รวมไปถึงกิจกรรมพัฒนากล้ามเนื้อของดวงตา เพราะหากกล้ามเนื้อส่วนนี้แข็งแรง ก็จะทำให้การมองเห็นไวขึ้น อ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้การเคลื่อนไหวของดวงตาได้ดีขึ้น

เสริมทักษะการฟัง ทักษะด้านการฟังเสียง ประเภทของคำ และรูปประโยคที่ถูกพัฒนาให้สามารถทำงานควบคู่กับการมอง การคิดวิเคราะห์ การเรียงลำดับเหตุการณ์ และการประมวลผล นอกจากนั้นแล้ว ยังสามารถช่วยพัฒนาในด้านความจำระยะสั้นและยาว และมีสมาธิมากขึ้น 

เด็กแต่ละคนมีขีดจำกัดความสามารถของสมองไม่เหมือนกัน อาการสมาธิสั้น อาจมีผลกระทบหากเด็กยังอยู่ในวัยเรียน และอาจส่งผลจนถึงตอนโตถ้าหากไม่ได้รับการรักษาหรือแก้ไขให้ถูกวิธี ทางสถาบันของเราได้มุ่งเน้นพัฒนาและคิดค้นกิจกรรมเหล่านี้ ผ่านหลักสูตรที่ได้รับการรับรองแล้วจากนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำหลายประเทศ จึงเป็นที่ยอมรับว่า เราสามารถแก้ไขปัญหาสมาธิสั้น จากระบบการทำงานที่ผิดปกติของสมองได้เป็นอย่างดี และได้ผลไว 

 

 

ผลที่ได้รับการจากฝึกกับเรา

 

ผลที่ได้จากการฝึกสมอง เด็กสมาธิสั้น

 

 

ทางสถาบัน BrainFit ได้ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำคิดค้นและวิจัยมากว่า 35 ปี เพื่อสรรสร้างหลักสูตรที่ไม่เหมือนใคร รับรองโดย Harvard University และ Standford University ว่าช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมองได้อย่างตรงจุด และได้ผลไว เราพัฒนากิจกรรมให้มีความเหมาะสมกับเด็กทุกคน รวมถึงเด็กสมาธิสั้น เด็กที่มีทักษะอ่อนกว่าวัย หรือทักษะปานกลาง หรือมีพรสวรรค์อยู่แล้ว ก็สามารถเพิ่มศักยภาพในส่วนต่างๆเพิ่มขึ้นได้

กิจกรรมที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน บวกกับองค์ความรู้ที่จะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการทางสมองที่ดีขึ้น ในขณะเดียวกันก็ได้เพิ่มพูนทักษะทางภาษาอังกฤษไปด้วย ทุก ๆ แบบฝึกหัดของเรา ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย และเวลาในแต่ละวัน จึงมั่นใจได้ว่า เด็กสามารถเพิ่มพูนความจำ สมาธิ การจดจ่อ การจัดระบบความคิดของสมองทางด้านการเคลื่อนไหวและการประมวลผลของสมองให้ดีขึ้นได้

 

 

 

 

หากผู้ปกครองท่านใดยังสงสัยว่าบุตรหลานของท่านอาจมีปัญหาสมาธิสั้น หรือ ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถขอรับคำปรึกษาฟรีได้ที่ สถาบัน BrainFit หรือ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นได้ทางโทรศัพท์ หมายเลข 02-656-9938-9 สำหรับวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ กรุณาโทร 091-774-3769 หรือกรอกข้อมูลด้านขวามือตามสะดวก แล้วทางเราจะติดต่อกลับทันทีค่ะ

 

 

รายละเอียดคอร์สพัฒนาสมาธิ คลิก!

 

            

ขอรับคำปรึกษาได้ฟรี  

 

LINE: @brainfit_th

เพิ่มเพื่อน

จันทร์ อังคาร พุธ และเสาร์อาทิตย์  โทร 02-656-9938  

วันพฤหัสบดี-วันศุกร์   091-774-3769    

 

 

 

 

 

Reference: http://www.manarom.com/http://www.ramamental.com/https://www.gpo.or.th/rdi/html/adhd.html

ปรึกษาฟรี หรือ ทดลองเรียนฟรี