พฤติกรรม ชอบเอาชนะ ปรับยังไงดีนะ?

 

 

พฤติกรรม ชอบเอาชนะ ปรับยังไงดีนะ

 


พฤติกรรม ชอบเอาชนะ ยอมไม่ได้ แพ้ไม่เป็น เวลาที่แข่งขัน หากแพ้ก็จะร้องไห้โวยวาย ไม่พอใจ ไม่สามารถรับมือกับความผิดหวังได้ หรือพยายามจะชนะ จนไม่สนใจกติกา

 


จริง ๆ แล้วการที่เด็ก ๆ แพ้ไม่เป็นนั้น เกิดจากการปรับตัวเรื่องของการเข้าสังคม อยากเป็นจุดสนใจ และได้รับการยอมรับ รวมถึงคำชื่นชม ก่อให้เกิดความกลัวที่จะพ่ายแพ้ เพราะคิดว่า แพ้ = ไม่เก่ง ไม่ได้รับความรัก

 

 

รู้หรือไม่!? ยอมให้ลูกชนะตลอด ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก

 

เวลาที่เล่นเกมกับลูก คุณพ่อคุณแม่มักจะยอมให้ลูกชนะ เพราะอยากให้ลูกมีความสุข แต่หากคุณพ่อคุณแม่ แกล้งแพ้ตลอด อาจทำให้ลูกขาดทักษะการรับมือกับความผิดหวัง รวมถึงโอกาสที่จะได้รู้จักความพ่ายแพ้ไปอย่างน่าเสียดายเลยค่ะ

 

 

 

"ถ้วยรางวัล"

 

 

แล้วทำไมลูกถึง ชอบเอาชนะ 

 

นอกจากเรื่องการปรับตัวเข้าสังคม และอยากเป็นที่ยอมรับแล้ว สาเหตุที่ลูกชอบเอาชนะ อาจเกิดจาก…

 


1. ความกดดันจากพ่อแม่ และสังคมรอบข้าง

 

การสอนให้เด็ก ๆ มีเป้าหมายเป็นเรื่องที่ดี และจะดีมากขึ้นหากเป้าหมายนั้นเกิดจากความตั้งใจของเขาเอง ไม่ใช่เป้าหมายที่คนอื่นตั้งให้ค่ะ เพราะความกดดันและความคาดหวังจากสังคมรอบข้าง (ที่อยากให้เด็กทำตามเป้าหมายให้สำเร็จนั้น) อาจทำให้เด็ก ๆ กลัว และยิ่งผิดหวังในตัวเองเมื่อผลลัพธ์ออกมาไม่ดี 

 

 

2. การได้รับคำชมจากผลลัพธ์เพียงอย่างเดียว

 

ขึ้นชื่อว่าการแข่งขันแล้ว ล้วนมีทั้งผู้แพ้และผู้ชนะ จริง ๆ แล้ว ควรชื่นชมในความพยายาม และการเล่นอย่างถูกกติกาด้วยเช่นกัน  หากมีแต่ผู้ชนะที่ได้รับคำชม และชมเพียงผลลัพธ์ จะกลายเป็นปลูกฝังนิสัยการเอาชนะ โดยไม่สนว่าได้เล่นอย่างถูกกติกาหรือไม่ ให้แก่เด็ก ๆ เสียมากกว่า สำหรับคำชมที่ดีนั้น ควรชมความพยายามในการฝึกฝนของเด็ก ๆ ด้วย เช่น

 

 

“วันนี้หนูตั้งใจฝึกมากเลย”

“ดีมากเลยนะที่หนูไม่ยอมแพ้ และลองหาวิธีใหม่ ๆ มาแก้ปัญหา”

 

 

3. สื่อ และตัวอย่าง

 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในยุคนี้ เด็ก ๆ สามารถเข้าถึงสื่อต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายขึ้น การได้เห็นตัวอย่างของคนที่ประสบความสำเร็จและได้รับความรักมากมายจากความสำเร็จนั้น อาจทำให้เด็ก ๆ เข้าใจได้ว่า ผู้ชนะเท่านั้นคือคนที่จะได้รับความรัก เนื่องจากเด็ก ๆ จะยังมีกระบวนการคิดที่ไม่ซับซ้อนมากนัก เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยกับลูก เกี่ยวกับคำพูดจากสื่อที่เด็ก ๆ ได้รับมา

 

 

"ชอบเอาชนะ แข่งขัน"

 

 

เปลี่ยนให้ลูกยอมได้ แพ้เป็น

 


1. คุมอารมณ์ของคุณพ่อคุณแม่เอง

 

เมื่อเด็ก ๆ ไม่ชนะ คุณพ่อคุณแม่เองก็อาจจะเผลอแสดงอาการผิดหวังออกมาโดยไม่รู้ตัว และเมื่อเด็ก ๆ รับรู้ได้ จะยิ่งทำให้เด็ก ๆ รู้สึกผิดหวังกับผลลัพธ์มากยิ่งขึ้น เกิดเป็นความรู้สึกฝังใจ ไม่อยากแพ้ ไม่อยากทำให้คุณพ่อคุณแม่ผิดหวังเพิ่มมากขึ้น

 

 

2. ให้ค่ากับความพยายาม มากกว่าผลลัพธ์

 

ไม่มีความสำเร็จใด ได้มาโดยไม่ฝึกฝน และพยายาม  การที่คุณพ่อคุณแม่หมั่นชื่นชมกับความพยายามฝึกฝน จะทำให้เด็ก ๆ เห็นคุณค่าของความพยายาม ความตั้งใจ และรับมือกับความพ่ายแพ้ได้ดีขึ้น หากผลลัพธ์ออกมาไม่ดี คุณพ่อคุณควรจะปลอบโยนลูก ๆ เพราะคำปลอบโยนเป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยาความรู้สึก ณ ตอนนั้นได้ดีที่สุด เพื่อให้เขารู้สึกว่าไม่เป็นไรเลย  แม้เขาจะแพ้ แต่ได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็ยังรักและชื่นชมเขาเหมือนเดิม

 

 

3. สอนให้ไม่เปรียบเทียบ

 

เด็ก ๆ เริ่มแยกแยะสิ่งดี กับไม่ดีได้ เริ่มรู้จักการเปรียบเทียบมากขึ้น จริง ๆ การเรียนรู้เรื่องการเปรียบเทียบของลูก ๆ นั้น มักเกิดจากการได้ยินคำพูดจากคนรอบข้าง เช่น

 

 

“ถ้าตั้งใจกว่านี้ ก็จะชนะเหมือนเพื่อนคนนั้นแล้ว”

“ทำไมทำได้ไม่ดีเหมือนพี่เขาเลย”

 

ทำให้เด็ก ๆ คิดว่า แพ้ = ไม่ดี, ชนะ = ดี เก่ง คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยกับลูก ๆ เสมอว่า

 

แพ้ ≠ ไม่ดี ไม่เก่ง

 

ความพ่ายแพ้ถือเป็นบทเรียนให้เราได้พัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น รวมถึงระมัดระวังคำชื่นชมที่มาพร้อมคำเปรียบเทียบด้วยเช่นกันค่ะ หากอยากชมให้ชมตัวลูก โดยไม่เปรียบเทียบกับคนอื่น เด็ก ๆ จะรู้สึกดีกับคำชมมากกว่าค่ะ

 


4. สอนให้ลูกมีน้ำใจนักกีฬา ชื่นชมผู้ชนะจากใจจริง ด้วยการเป็นตัวอย่าง

 

เห็นพฤติกรรมแบบไหนบ่อย เด็กย่อมซึมซับพฤติกรรมแบบนั้นไปเช่นกัน หากคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกรู้จักแพ้ รู้จักชนะมากขึ้น หากเล่นเกมแข่งขันกัน ก็อย่าลืมที่จะแข่งขันอย่างแฟร์เกมกับลูก รวมถึงเลือกใช้คำพูด และสอนให้ลูกรู้จักยินดีกับผู้ชนะ และให้กำลังใจผู้แพ้ด้วยนะคะ

 

 

"ชอบเอาชนะ แพ้ไม่เป็น"

 

 

เป็นยังไงกันบ้างคะ วิธีที่เรานำมาฝากกัน ไม่ยากเลยใช่ไหม แต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และ Mindset นั้น ต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอเป็นอย่างมากเลยค่ะ แต่รับรองได้เลยว่าคุ้มค่ากับเวลาที่ลงทุนไปแน่นอน เพราะ Mindset นี้ จะติดตัวของน้อง ๆ ไปจนโต และเป็นหนึ่งใน Growth Mindset ที่สำคัญมากในการเรียนรู้

 

 

ทางสถาบัน BrainFit ของเราเอง ก็พัฒนาหลักสูตรที่เสริมสร้าง Growth Mindset มาอย่างต่อเนื่อง เพราะเราเชื่อว่าความฉลาดทางอารมณ์ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เด็ก ๆ เติบโตอย่างมีความสุข และสนุกกับการเรียนรู้มากขึ้น

 

 

 

พัฒนาสมาธิแบบรอบด้าน อย่างถูกวิธี เห็นผลยั่งยืน

 

"ทดลองเรียน"

                                                                                       

จันทร์ อังคาร พุธ เสาร์ และ อาทิตย์  

02-656-9938 / 02-656-9939 02-656-9915

วันพฤหัสบดี-วันศุกร์  091-774-3769


เพิ่มเพื่อน

LINE: @brainfit_th

Contact Us

หากคุณสนใจคอร์สหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อเราได้เลย

BrainFit Studio Thailand ชั้น 2, อาคารเพลินจิตเซ็นเตอร์,
สุขุมวิทซอย 2, กทม. 10110BTS สถานีเพลินจิต ทางออก 4