อย่าปล่อยให้ช่วงหยุดยาว ทำลายสมอง
ในสถานการณ์ปกติ ช่วงหยุดยาวหรือช่วงปิดเทอม คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ครอบครัวจะส่งลูกรักเรียนพิเศษหรือไปเข้าค่ายต่าง ๆ เพื่อเรียนรู้ทักษะใหม่ แต่ในสถานการณ์โควิด 19 ทุกบ้านต้องกักตัวเพื่อหยุดการแพร่กระจายของโรคระบาด ส่งผลให้กิจกรรมภายนอกบ้านของเด็ก ๆ หายไป เช่น การไปเล่นที่สนามเด็กเล่น ปั่นจักรยานในสวน ว่ายน้ำ เป็นต้น
เมื่ออยู่บ้านนานสักระยะหนึ่ง เด็ก ๆ ก็จะเริ่มบ่นกับผู้ปกครองแล้วว่าอยากไปเล่นข้างนอก อยากเล่นอย่างอื่น หนูเบื่อแล้ว เล่นทุกอย่างแล้ว ทำให้พ่อแม่ปวดหัวไม่น้อย ยิ่งถ้าคุณพ่อคุณแม่ต้อง Work from home ไปด้วยก็ยิ่งทำให้เกิดความเครียดเพิ่มมากขึ้นได้
เมื่อเด็ก ๆ ขาดการทำกิจกรรมภายนอกบ้านที่ได้เคลื่อนไหวร่างกายเยอะ ๆ เป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นทั้งร่างกายหรือสมองก็จะได้ออกกำลังน้อยลง ซึ่งส่งผลไปถึงพัฒนาการตามวัยของเด็ก ๆ ด้วย ไม่จริงเลยที่ว่า เด็ก ๆ เรียนมาทั้งเทอมแล้ว ต้องพักผ่อนสมองบ้าง เพราะ ความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาเปิดเทอมหรือปิดเทอม สมองของเราไม่ได้พักผ่อน เพียงแต่มีการใช้งานในลักษณะที่แตกต่างกัน ซึ่งหากในวัยเด็กนั้น มีการเรียนรู้ทักษะการอ่าน การเขียน การวิเคราะห์ที่ขาดช่วงบ่อย ๆ จะส่งให้เด็ก ๆ เรียนรู้ช้า จับใจความที่เรียนไม่ได้ ความจำไม่ดี ทำให้ขาดความมั่นใจและคิดว่าตัวเองนั้นเป็นคนเก่งได้ (สามารถรับชมเรื่องการทำงานของสมองเพิ่มเติมที่ https://youtu.be/-IoeewtF2tY)
จากงานวิจัย The Effects of Summer Vacation on Learning: A Look at Interrupted Instruction, 2002พบว่า การปิดเทอมโดยที่เด็ก ๆ ที่ไม่ได้รับการฝึกฝนด้านการอ่านหรือการวิเคราะห์ ส่งผลให้ 25% ของนักเรียนมีประสิทธิภาพในการเรียนที่น้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งไม่ใช่เพียงผลลัพธ์จากงานวิจัยที่ช่วยยืนยันเท่านั้น เมื่อโรงเรียนเปิดเรียน คุณครูหลายท่านก็มักมี Feedback กับคุณพ่อคุณแม่ว่าลูกไม่มีสมาธิในการเรียน คุยหรือเล่นกับเพื่อนตลอด เรียนไม่ทัน จำเนื้อหาที่เรียนไม่ค่อยได้ เห็นไหมว่าเพียงแค่ช่วงเวลาปิดเทอมเท่านั้น ที่ทำให้ลูกรักขาดการพัฒนาทักษะที่ต่อเนื่องไป
BrainFit เห็นความสำคัญของการเติบโตของเด็ก ๆ จึงมีวิธีการดูแลลูกรักที่บ้านง่าย ๆ มาฝาก ดังนี้
- กิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกาย ควรหากิจกรรมให้ลูกได้ออกกำลังเคลื่อนไหวร่างกายอยู่เป็นประจำเพื่อให้สมองสั่งการและจัดการร่างกายให้เคลื่อนที่ได้อย่างเหมาะสม มีพลังและกระปรี้กระเปร่า เด็ก ๆ ที่นั่งหรือนอนเป็นเวลานาน ๆ ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกาย จะมีผลต่อสารเคมีในสมอง ทำให้ไม่อยากทำอะไร อยากอยู่เฉย ๆ ทั้งวัน ขาดพลังและดูไม่มีแรง
- หาหนังสือที่ลูกสนใจมาให้ลูกอ่าน คุณพ่อคุณแม่สามารถจัดเวลามานั่งอ่านเป็นเพื่อนลูกได้ อย่างน้อย เพียง 30 นาทีต่อวัน ก็สามารถทำให้สมองของลูกรักมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นได้
- หลีกเลี่ยงการอยู่หน้าจอเป็นเวลานาน ๆ เช่น การเล่นเกม หรือการดูทีวี เพราะนอกจากจะทำให้
สารเคมีในสมองทำงานผิดปกติแล้ว ยังทำให้จอประสาทตาเสื่อมก่อนวัยได้ด้วย
- หากิจกรรมที่ได้ทำร่วมกันทั้งครอบครัว เช่น เล่นบอร์ดเกม ปลูกต้มไม้ ทำอาหาร โดยให้ลูกได้ร่วม
ตัดสินใจและลงมือทำด้วยกัน ก็จะช่วยให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้วิธีการจัดการวางแผนสิ่งต่าง ๆ และได้กระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวด้วย
- ทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและเป็นเวลา
นี่เป็นเพียงวิธีเบื้องต้นที่สามารถทำได้ที่บ้านในเวลาว่าง หากคุณพ่อคุณแม่มีความกังวลใจ ที่ต้องกลับไปทำงานตามปกติแล้ว แต่ลูกรักยังต้องอยู่บ้าน เพราะโรงเรียนยังไม่เปิด เราขอแนะนำ BrainFit Scholar Home- Base Learning ซึ่งเป็นหลักสูตรที่พัฒนาจากงานวิจัยที่สามารถทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลูกรักไม่หยุดการสร้างเซลล์สมองใหม่ เสริมสร้างการเรียนรู้และมีพัฒนาการที่สมวัย หลักสูตรการเรียนรู้ออนไลน์สามารถช่วยให้ลูกรักได้ฝึกพัฒนาการรอบด้านของสมองอย่างถูกวิธี มีความถี่ของกิจกรรมที่เหมาะสม และปรับระดับความยากง่ายให้เข้ากับผู้เรียน ที่สำคัญยังได้เคลื่อนไหวร่างกาย ไม่ใช่นั่งอยู่เฉพาะหน้าจอเท่านั้น มีการเรียนที่ได้เจอกับคุณครูและเพื่อน ๆ แบบ Real Time นอกจากได้ความสนุกเพลิดเพลินแล้ว ยังทำให้สมองแข็งแรงและมีพัฒนาการสมวัยด้วย
คุณพ่อคุณแม่ท่านใดสนใจ อย่ารอช้า ที่นั่งมีจำนวนจำกัด มีโปรโมชั่นมากมาย ร่วมสู้โควิดไปด้วยกัน สามารถติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line@ BrainFit_th หรือโทร 091-774-3769 เวลาทำการ 9.00 -18.00 น. ทุกวันเสาร์- วันพุธ (ปิดทำการ วันพฤหัสบดีและวันศุกร์)