3 วิธีป้องกัน สมองเสื่อม ในผู้ใหญ่

 

 3 วิธี  ป้องกันสมองเสื่อมในผู้ใหญ่

สมองเสื่อม ไม่ใช่สิ่งที่คุณ อยากจะให้เกิดขึ้นกับตัวเอง หรือคนที่คุณรักแน่นอนเลยใช่ไหมละคะ วันนี้ทางสถาบันจะพาไปศึกษาปัจจัยเสี่ยง และวิธีการป้องกัน สมองเสื่อม ในผู้ใหญ่กันค่ะ

 

ถ้าอยากรู้แล้วว่ามีอะไรบ้าง? ก็ลุยกันเลยค่ะ!

 

  • นึกคำพูดไม่ออก 
  • สับสนเรื่องวัน เวลา
  • บวกลบเลขง่าย ๆ ไม่ได้
  • มีปัญหาในการสื่อสารกับผู้อื่น
  • ความสามารถในการตัดสินใจลดลง
  • อารมณ์ไม่คงที่ เปลี่ยนแปลงง่าย
  • พฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิม

 

อาการเหล่านี้เป็นอาการที่บ่งบอกว่าสมองของคุณ หรือคนที่คุณรักกำลังเสื่อมลง หากเป็นเช่นนั้น สิ่งนี้จะค่อย ๆ ส่งผลกระทบทางลบ ต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และการทำงานของคุณ หรือคนที่คุณรักอย่างแน่นอน

 

จะดีกว่าไหมหากเรา ไม่ต้องประสบพบเจอกับอาการดังกล่าว หรือสามารถยืดเวลาที่จะเกิดอาการเหล่านี้ออกไปให้ได้นานที่สุด วันนี้ ทางสถาบันจึงได้นำเอาเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยป้องกันไม่ให้สมองของเราเสื่อมลงมาฝากกันค่ะ ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะว่าเราจะทำยังไงกันได้บ้าง?

 

สมองเสื่อม

 


 ปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอาการ " สมองเสื่อม " คืออะไรกันนะ? 

 

วารสารการแพทย์ The Lancet ได้ตีพิมพ์เกี่ยวกับโรคสมองเสื่อมไว้ว่า เราสามารถป้องกันไม่ให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ หากเราหันมาดูแลสมองกันให้มากขึ้น!

 

รายงานการศึกษาที่ตีพิมพ์ดังกล่าวได้ระบุปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคความจำเสื่อมไว้ 9 ข้อ ซึ่งเราจะยกเอาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับกิจวัตร และการใช้ชีวิตประจำวันของเรามา 3 ข้อ ได้แก่ การสูบบุหรี่ การไม่ออกกำลังกาย และการขาดการศึกษาเรียนรู้ในสิ่งใหม่

 

ดังนั้นเมื่อรู้สาเหตุว่าเกิดจากอะไรแล้ว เราก็จะสามารถรู้วิธีป้องกันได้อย่างตรงจุดแล้วละค่ะ 

 

 

 3 วิธี  ป้องกัน สมองเสื่อม ในผู้ใหญ่

 

 

 1. งด หรือลดปริมาณการสูบบุหรี่ 


บริษัท Kaiser Permanente ได้มีการทำการศึกษาวิจัย และเก็บข้อมูลด้านสุขภาพ และพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของชาวอเมริกัน ในรัฐแคลิฟอร์เนีย กว่า 21,000 คน เป็นระยะเวลาราว 20-30 ปี พบว่า ผู้ที่สูบบุหรี่จัดประมาณอย่างน้อยวันละ 2 ซอง (40 มวน) มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคความจำเสื่อมมากกว่าคนที่ไม่สูบถึง 2 เท่า

 

และผู้ที่สูบบุหรี่ประมาณ 1 ซอง แต่ไม่ถึง 2 ซอง มีโอกาสเสี่ยงเป็นอัลไซเมอร์ 44% ส่วนผู้ที่สูบประมาณวันละครึ่งซองถึง 1 ซองมีความเสี่ยง 37%

 

ดังนั้นการงด หรือลดปริมาณในการสูบบุหรี่ในแต่ละวัน จะช่วยลดโอกาสการเสี่ยงของการเกิดโรคอัลไซเมอร์เมื่อตอนคุณอายุมากขึ้นได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

 

 

 2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 


แน่นอนว่าการออกกำลังกายมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก และมันจะส่งผลดีให้เราเห็นอย่างชัดเจนมากขึ้นเมื่อเราอยูในวัยผู้ใหญ่ตอนปลาย หรือวัยสูงอายุ หากเรามีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 

 

และแม้จะยังไม่มีงานวิจัยใดสามารถบอกได้ว่าการออกกำลังกายช่วยป้องกันอาการสมองเสื่อมได้อย่างไร แต่ในทางทฤษฎีนั้นได้มีการแสดงไว้ว่า การออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้น Brain derived neurotrophic factor (BDNF) ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต และการอยู่รอดของเซลล์สมองใหม่ ๆ 

 

เพราะมันช่วยเพิ่มความทนทานต่อการบาดเจ็บ เร่งการสร้าง การปรับเปลี่ยนรูปแบบ และช่วยให้เซลล์สมองใหม่ ๆ ทำงานเชื่อมต่อกันได้ดีขึ้น ซึ่งถ้าหากสมองสูญเสีย หรือขาด BDNF ไป จะทำให้เซลล์สมองถูกตัดการเชื่อมต่อ และสูญเสียเซลล์สมองไป 

 

และเพื่อเพิ่มความหนักแน่นของคำกล่าวข้างต้น ทางสถาบันจึงขอนำเอางานวิจัยเกี่ยวกับการออกกำลังกายที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ Neurology มาอ้างถึงในวิธีการนี้ โดยเนื้อหาด้านในระบุไว้ว่า ผู้หญิงที่ออกกำลังกายอย่างจริงจัง และสม่ำเสมอตั้งแต่อายุ 45 ปีขึ้นไป จะมีโอกาสเป็นโรคสมองเสื่อมน้อยลงถึง 90% เมื่ออายุมากขึ้น

 

 

 3. หมั่นคิด และเรียนรู้สิ่งใหม่ 


พยายามฝึกให้สมองได้คิดบ่อย ๆ และไม่หยุดที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่แม้โตแล้ว เนื่องจากสมองก็เปรียบเสมือนกล้ามเนื้อของเรา หากเราไม่หมั่นคิด หมั่นใช้เพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ ประสิทธิภาพของสมองก็จะค่อย ๆ ถดถอยลงไปเรื่อย ๆ 

 

แต่หากเราหมั่นคิด หมั่นใช้มันเรียนรู้สิ่งใหม่ ก็จะช่วยให้สมองของเราแข็งแรงมากยิ่งขึ้น และยืดประสิทธิภาพของสมองให้สามารถใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม และยาวนานมากขึ้นได้

 

โดยเราสามารถหมั่นคิด หมั่นใช้สมองได้ง่าย ๆ ในหลายรูปแบบ เช่น 

  • อ่านหนังสือ เขียนหนังสือบ่อย ๆ ฝึกคิดวิเคราะห์ เชื่อมโยง และสรุปสิ่งที่อ่าน 
  • บวกลบเลขราคาสินค้าง่าย ๆ เวลาเราไปซื้อของกินของใช้ด้วยตัวเองโดยไม่ใช้เครื่องคิดเลข
  • ฝึกทักษะใหม่ ๆ เช่น การทำอาหาร การออกกำลังกาย หรือเรียนภาษาที่ 2 ที่ 3 เพิ่มเติม เป็นต้น


หากคุณทำได้ทั้ง 3 ข้อตามที่กล่าวมาข้างต้น เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้สมองของคุณมีเกราะป้องกันที่แข็งแรง ไว้ต่อสู้กับอาการสมองเสื่อมแล้วละค่ะ

 

สุดท้ายนี้ก็หวังว่าคุณ จะนำวิธีการที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ไปปรับใช้ และบอกต่อให้กับคนที่คุณรักกันเยอะ ๆ นะคะ เพื่อป้องกันอาการเสื่อมของสมอง และช่วยให้สมองแข็งแรงมีประสิทธิภาพอยู่เสมอ แม้ว่าคุณ และคนที่คุณรักจะมีอายุเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ก็ตาม

 

 

 

ที่ BrainFit เรามีโปรแกรมพัฒนาสมอง และความจำ ชื่อว่าโปรแกรม Fast ForWord ที่จะช่วยพัฒนาสมอง และความจำของคุณให้แข็งแรง และมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าที่เคย แถมโปรแกรมนี้ ยังช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณอย่างก้าวกระโดดได้อีกด้วย 

 

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม คลิก!

สมองเสื่อม

 

o o o o o o o o o o o o o o o o o 

สอบถามเพิ่มเติม หรือ ทดลองเรียน ฟรี!

จันทร์ อังคาร พุธ เสาร์ และ อาทิตย์  โทร 02-656-9938

วันพฤหัสบดี-วันศุกร์   091-774-3769

LINE Official Account: @brainfit_th

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อ้างอิง:  www.bbc.com, www.si.mahidol.ac.th, www.thonburihospital.com, mgronline.com, www.sanook.com, www.voathai.com 

Contact Us

If you would like to have your child attend our course, or you would simply like more information, please contact us today.

BrainFit Studio Thailand 2nd floor, Ploenchit Center,
Sukhumvit Soi 2, Bangkok 10110BTS Ploenchit Station Exit 4